เราคือผู้ให้บริการด้านการออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบครบวงจร ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ดูแลโดยโค้ชธันและโค้ชแพรว ประสบการณ์มากกว่า 9 ปี การันตีการเทรนนักเรียนมามากกว่า 300 คน เรามีบริการทั้งยิมแบบเทรนส่วนตัว, เทรนออนไลน์แบบมีโค้ชส่วนตัวให้คำแนะนำ, คลาสออกกำลังกายออนไลน์ และจำหน่ายสินค้าฟิตเนส
เพราะเรารู้ดีว่าการมีรูปร่างที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นจุดเริ่มต้นของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อมาเทรนกับ “Body Project”
เรามีโค้ชมืออาชีพที่ได้รับการรับรองจากสถาบันที่มีมาตรฐาน พร้อมที่จะดูแลนักเรียนแบบใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ร่างกาย ออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายและโปรแกรมอาหารรายบุคคลให้ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตประจำของนักเรียน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่นักเรียนไว้วางใจมาเทรนกับเราเป็นจำนวนมาก
“หุ่นสวย สุขภาพดี มาเทรนที่ BODY PROJECT”
ยิมส่วนตัวพร้อมเทรนแบบตัวต่อตัวทุกคลาส โดยโค้ชมืออาชีพที่มีประสบการณ์ และได้รับการรับรองจากสถาบันที่มีมาตรฐาน
เทรนออนไลน์แบบมีโค้ชดูแลส่วนตัว ที่จะออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายและโปรแกรมโภชนาการแบบรายคน พร้อมให้คำปรึกษาตลอดระยะคอร์ส เหมือนมีโค้ชอยู่ข้างๆ
คลาสออกกำลังกายออนไลน์แนวใหม่ หนึ่งเดียวในไทย ทำตามได้ง่าย แบบไม่ใช้อุปกรณ์ อยู่ที่ไหนก็ออกกำลังกายได้
เทรนออกกำลังกายกับโค้ช ผ่าน VIDEO CALL เทรนที่บ้านก็ฟิตได้ไม่แพ้ที่ยิม ออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายและโปรแกรมโภชนาการ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดระยะคอร์ส
ยิมส่วนตัวพร้อมเทรนแบบตัวต่อตัวทุกคลาส โดยโค้ชมืออาชีพที่มีประสบการณ์ และได้รับการรับรองจากสถาบันที่มีมาตรฐาน
เทรนออนไลน์แบบมีโค้ชดูแลส่วนตัว ที่จะออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายและโปรแกรมโภชนาการแบบรายคน พร้อมให้คำปรึกษาตลอดระยะคอร์ส เหมือนมีโค้ชอยู่ข้างๆ
เทรนออกกำลังกายกับโค้ช ผ่าน VIDEO CALL เทรนที่บ้านก็ฟิตได้ไม่แพ้ที่ยิม ออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายและโปรแกรมโภชนาการ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดระยะคอร์ส
คลาสออกกำลังกายออนไลน์แนวใหม่ หนึ่งเดียวในไทย ทำตามได้ง่าย แบบไม่ใช้อุปกรณ์ อยู่ที่ไหนก็ออกกำลังกายได้
💊 รู้ไหม? “แมกนีเซียม” มีหลายรูปแบบ และแต่ละแบบให้ผลต่างกัน!
แมกนีเซียมไม่ใช่แค่ช่วยลดตะคริว หรือช่วยนอนหลับเท่านั้นนะ แต่ยังส่งผลต่อพลังงาน สมอง และหัวใจด้วย
มาดูกันว่าแต่ละชนิดทำหน้าที่อะไรบ้าง?
1. Magnesium Citrate
ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร และแก้อาการท้องผูก เหมาะกับคนที่ระบบขับถ่ายไม่ค่อยดี
2. Magnesium Glycinate
ช่วยให้รู้สึกสงบ ลดความเครียด หลับลึกขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่นอนไม่ค่อยหลับ หรืออยู่ในภาวะเครียดบ่อย
3. Magnesium Threonate
เสริมการทำงานของสมองและความจำ ช่วยให้โฟกัสดีขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องใช้สมองหนัก
4. Magnesium Malate
เพิ่มพลังงาน เหมาะกับสายออกกำลังกาย หรือคนที่มักรู้สึกเพลีย
5. Magnesium Chloride
ช่วยลดตะคริว และลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
6. Magnesium Orotate
บำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด
7. Magnesium Sulfate (Epsom Salt)
ช่วยลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ นิยมใช้แช่ตัวหลังออกกำลังกายหนักๆ
8. Magnesium Oxide
ดูดซึมได้น้อย (ไม่ค่อยแนะนำ) มักใช้ในยาระบาย
9. Magnesium Taurate
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเรื่องความดัน
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
ลดไขมันได้หลายวิธี แต่ไม่ได้ให้ ‘ผลลัพธ์’ เท่ากัน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่ “น้ำหนักลด” แต่คือ ”องค์ประกอบของร่างกายที่เปลี่ยน“
• แค่คุมอาหาร = ลดน้ำหนักได้ เพราะสร้าง Calorie Deficit แต่ร่างกายจะสูญเสียทั้งไขมัน และกล้ามเนื้อ ทำให้รูปร่างไม่กระชับ
• คุมอาหาร + เวทเทรนนิ่ง = ช่วยรักษา และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น และลดไขมันได้ง่ายขึ้น
• คุมอาหาร + เวทเทรนนิ่ง + คาร์ดิโอ = ทางเลือกที่ดีที่สุด ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นทั้งภายใน และภายนอกเห็นผลไวขึ้น สุขภาพดีขึ้น และรักษาน้ำหนักได้ระยะยาว
อย่ามองแค่ตัวเลขบนตาชั่งให้ดูที่รูปร่าง และสุขภาพโดยรวมค่ะ
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
🧠 ทุกเรื่องเกี่ยวกับ ครีเอทีน (Creatine)
รู้ไหมว่า “ครีเอทีน” ไม่ใช่แค่ของสายกล้าม แต่คือโมเลกุลพลังงานระดับเซลล์
ในร่างกายของเรา ครีเอทีน (Creatine) ทำหน้าที่เก็บ และส่งต่อพลังงานให้ “ATP” แหล่งพลังงานหลักของกล้ามเนื้อและสมอง
เมื่อคุณออกกำลังกายหนักๆ หรือใช้แรงระเบิดเร็ว เช่น Sprint / Weight Training / HYROX
ATP จะหมดภายในไม่กี่วินาที ตรงนี้แหละที่ครีเอทีนฟอสเฟต (Phosphocreatine) เข้ามาช่วยเติมพลังงานให้ทันที
ผลที่เห็นจริงทางวิทยาศาสตร์
• เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ (Strength & Power Output)
• ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นหลังเทรนหนัก
• เพิ่มมวลกล้ามเนื้อแบบลีน
• เสริมการทำงานของสมองในช่วงที่ต้องใช้พลังงานสูง
• มีงานวิจัยรับรองมากที่สุดในหมู่อาหารเสริมฟิตเนส
ปริมาณแนะนำ:
2–4 กรัมต่อวัน (ไม่จำเป็นต้องโหลด) กินได้ทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
รูปแบบที่แนะนำ:
Creatine Monohydrate รูปแบบที่มีการศึกษามากที่สุด ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุดวัน
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
อยาก “อายุยืน” ไม่ใช่แค่มีชีวิตยาวนาน แต่ต้อง “อยู่แบบแข็งแรง มีคุณภาพ”
6 ศาสตร์พื้นฐานที่ช่วยให้ร่างกายชะลอวัยจากภายใน (Anti-aging แบบยั่งยืน)
1️⃣นอนให้เพียงพอ – ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ และฮอร์โมนตอนหลับ
2️⃣กินให้เหมาะสม – ลดน้ำตาล ทานผัก โปรตีนดี และคุมแคลอรี่
3️⃣ออกกำลังกายสม่ำเสมอ – สร้างกล้ามเนื้อ รักษามวลกระดูก และระบบไหลเวียน
4️⃣จัดการความเครียด – เพราะฮอร์โมนเครียดคือ ศัตรูของความอ่อนเยาว์
5️⃣สร้างความสัมพันธ์ที่ดี – คนรอบตัวส่งผลต่อสุขภาพใจโดยตรง
6️⃣หลีกเลี่ยงสารอันตราย – เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ มลภาวะ หรือสารเคมีสะสม
การ “ชะลอวัย” ไม่ได้อยู่ที่ครีมหรืออาหารเสริมเท่านั้น แต่คือ “ระบบชีวิต” ที่เราดูแลมันทุกวัน❤️
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
แชร์ท่าวอร์มอัพแบบ Dynamic Stretching ที่เหมาะกับการเตรียมร่างกายก่อนเวทเทรนนิ่งได้ครบทุกส่วน💪🏻 ...
เล่น Leg Raise ยังไงให้ถูกต้อง✅ ...
Sarcopenia คืออะไร?
Sarcopenia (ภาวะมวลกล้ามเนื้อลดลงตามอายุ) คือภาวะที่ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ, แรงกล้ามเนื้อ และสมรรถภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อไปตามอายุ โดยมักเริ่มเกิดตั้งแต่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป และจะชัดเจนขึ้นหลังอายุ 50–60 ปีขึ้นไป ภาวะนี้ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง เคลื่อนไหวช้าลง สมดุลแย่ลง เสี่ยงหกล้ม และมีผลต่อสุขภาพโดยรวม เช่น การเผาผลาญลดลง เสี่ยงโรคเบาหวาน ความดัน และโรคเมตาบอลิกต่างๆ
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิด ได้แก่:
• การเสื่อมตามอายุ: ฮอร์โมน เช่น เทสโทสเตอโรน และโกรทฮอร์โมนลดลง
• ขาดการใช้งานกล้ามเนื้อ: ไม่ออกกำลังกาย โดยเฉพาะการฝึกแรงต้าน
• โภชนาการไม่เพียงพอ: ได้โปรตีนไม่พอ หรือร่างกายดูดซึมได้น้อยลง
• โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน, ภาวะดื้ออินซูลิน, โรคหัวใจ, มะเร็ง
• การอักเสบเรื้อรัง ที่มักเกิดมากขึ้นในผู้สูงอายุ
วิธีป้องกัน และชะลอ Sarcopenia
1. ออกกำลังกายแบบแรงต้าน (Resistance Training)
- การยกเวท, ใช้ยางยืด, Bodyweight
- ควรทำอย่างน้อย 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ และรักษาแรง
2. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Training)
- เดินเร็ว, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน หรือวิ่ง
- ช่วยให้หัวใจ และระบบไหลเวียนดีขึ้น เสริมสมรรถภาพ และลดการอักเสบ
3. โภชนาการที่เหมาะสม
- โปรตีน: ประมาณ 1.2–1.6 กรัม/กก. น้ำหนักตัว/วัน
- เลือกแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ปลา นมถั่วเหลือง เวย์โปรตีน
- วิตามิน และแร่ธาตุ: วิตามิน D, แคลเซียม, โอเมก้า-3 มีบทบาทสำคัญต่อการรักษากล้ามเนื้อ
4. รักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม
- ภาวะอ้วน (ไขมันแทรกในกล้ามเนื้อ) และผอมเกินไป (ขาดสารอาหาร) ล้วนเพิ่มความเสี่ยง
5. การนอนหลับ และการฟื้นฟู
- นอนหลับคุณภาพดี 7–9 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซม และสร้างกล้ามเนื้อทำงานเต็มที่
6. การตรวจสุขภาพ และปรึกษาแพทย์
- ผู้ที่อายุมาก หรือมีโรคประจำตัวควรตรวจวัดมวลกล้ามเนื้อ, Strength Test (เช่น Handgrip Strength) และปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
6 วิธีเผาผลาญไขมันเร็วขึ้น (Science-based)
1. เพิ่มกิจกรรม NEAT (Non-Exercise Activity Thermogenesis)
นอกจากการออกกำลังกายแบบจริงจังแล้ว การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวัน เช่น เดินขึ้นบันได, ลุกเดินระหว่างทำงาน, ทำงานบ้าน มีผลต่อการเผาผลาญแคลอรี่รวมต่อวันมาก งานวิจัยพบว่า NEAT สามารถสร้างความแตกต่างถึง 200–500 kcal/วัน ได้เลย
2. ฝึกเวทเทรนนิ่ง (Resistance Training)
การสร้างกล้ามเนื้อช่วยเพิ่ม Basal Metabolic Rate (BMR) หรือพลังงานที่ร่างกายใช้ตอนพัก เนื่องจากกล้ามเนื้อต้องใช้พลังงานในการคงอยู่ ยิ่งมีกล้ามเนื้อมาก การเผาผลาญไขมันพื้นฐานยิ่งสูงขึ้น
3. ใช้ High-Intensity Interval Training (HIIT)
HIIT ช่วยเพิ่มการเผาผลาญทั้งระหว่าง และหลังออกกำลังกาย (EPOC – Excess Post-exercise Oxygen Consumption) งานวิจัยเปรียบเทียบแล้วพบว่า HIIT เผาผลาญไขมันได้ดีกว่าคาร์ดิโอแบบ Steady-State ในเวลาที่เท่ากัน
4. ปรับสมดุลโปรตีนในอาหาร
การกินโปรตีนเพียงพอ (ประมาณ 1.6–2.2 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg) ไม่เพียงช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างลดไขมัน แต่ยังมี Thermic Effect of Food (TEF) สูงกว่าไขมัน และคาร์บ (โปรตีนใช้พลังงานย่อยถึง ~20–30% ของแคลอรี่ที่กินเข้าไป)
5. จัดการการนอนหลับ
งานวิจัยแสดงชัดว่าการนอนน้อย (<6 ชม.) มีผลทำให้ฮอร์โมนความหิว (ghrelin) เพิ่ม และฮอร์โมนอิ่ม (leptin) ลดลง ส่งผลให้ร่างกายอยากกินอาหารมากขึ้น และสะสมไขมันง่ายขึ้น การนอนเต็มที่ 7–9 ชม. ต่อคืนช่วยให้การเผาผลาญไขมันมีประสิทธิภาพ
6. เพิ่มการใช้ไขมันผ่านการจัดการโภชนาการ
- จำกัดน้ำตาล และอาหาร Ultra-Processed
- กินคาร์บเชิงซ้อน (Whole Grains, ผัก, ผลไม้) เพื่อควบคุมอินซูลิน
- เว้นช่วงการกิน (Time-Restricted Eating) อาจช่วยควบคุมพลังงานรวม งานวิจัยบางชิ้นพบว่า การเว้นช่วงกิน (Intermittent Fasting) ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้ไขมันเป็นพลังงาน แต่ผลขึ้นกับ Lifestyle และ Adherence
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
เมื่อพูดถึง Hormone & Fitness ฮอร์โมนถือเป็นตัวกำหนด “โค้ดลับ” ของร่างกายที่มีผลโดยตรงต่อการสร้างกล้ามเนื้อ (Muscle Building) และลดไขมัน (Fat Loss) ต่อไปนี้คือฮอร์โมนหลักๆ ที่ควรรู้จัก:
🧬ฮอร์โมนหลักที่เกี่ยวข้องกับการสร้างกล้ามเนื้อ
1. Testosterone (เทสโทสเตอโรน)
- ฮอร์โมนเพศชายหลัก แต่พบในผู้หญิงเช่นกัน (ปริมาณน้อยกว่า)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีน (Protein Synthesis) เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และแรง (Strength)
- การออกกำลังกายแบบ Compound Movement (Squat, Deadlift, Bench Press) และการนอนหลับเพียงพอช่วยกระตุ้นได้ดี
2. Growth Hormone (GH) & IGF-1
- หลั่งมากตอนนอนหลับลึก
- กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- ฝึก HIIT, เวทเทรนนิ่งหนักๆ และนอนให้เพียงพอช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนนี้
3. Insulin
- เป็น “ฮอร์โมนเก็บพลังงาน”
- มีบทบาททั้งดีและเสีย → ถ้าจัดการอินซูลินได้ดี (Insulin Sensitivity สูง) ร่างกายจะเก็บสารอาหารไปสร้างกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
- แต่ถ้าอินซูลินสูงตลอด (จากการกินน้ำตาล/แป้งขัดสีบ่อย) จะสะสมไขมันง่าย
🔥ฮอร์โมนหลักที่เกี่ยวข้องกับการลดไขมัน
1. Cortisol (คอร์ติซอล)
- ฮอร์โมนความเครียด ถ้าอยู่ในระดับพอดีช่วยกระตุ้นพลังงาน แต่ถ้าเรื้อรังสูงเกินไป → ทำให้ร่างกายเก็บไขมัน (โดยเฉพาะหน้าท้อง) และสลายกล้ามเนื้อ
- จัดการด้วยการพักผ่อนเพียงพอ ลดความเครียด และไม่ฝึกหนักเกินไป
2. Leptin (เลปติน)
- ฮอร์โมนความอิ่ม ส่งสัญญาณไปสมองว่าพลังงานพอแล้ว
- ถ้าร่างกายดื้อต่อเลปติน (Leptin Resistance) จะกินเกินความจำเป็นง่าย → ควบคุมด้วยการกินอาหารคุณภาพสูง ไม่กินแปรรูปมาก
3. Ghrelin (เกรลิน)
- ฮอร์โมนความหิว หลั่งสูงเมื่อร่างกายขาดพลังงาน หรืออดอาหารนานเกินไป
- การกินอาหารโปรตีนสูง ไฟเบอร์ และนอนหลับเพียงพอช่วยควบคุมได้
4. Adrenaline & Noradrenaline
- ฮอร์โมนที่หลั่งเวลาออกกำลังกาย หรืออยู่ในภาวะตื่นตัว → กระตุ้นการสลายไขมันมาใช้เป็นพลังงาน
⚖️การบาลานซ์ฮอร์โมนเพื่อฟิตเนส
- การนอนหลับ: ฮอร์โมน Anabolic (Testosterone, GH) หลั่งช่วงนอนลึก
- โภชนาการ: โปรตีนคุณภาพสูง + คาร์บเชิงซ้อน + ไขมันดี → ช่วยรักษาสมดุลอินซูลิน และเลปติน
- การจัดการความเครียด: ลด Cortisol เพื่อไม่ให้ขัดขวาง Muscle Gain และ Fat Loss
- การออกกำลังกาย: เวทเทรนนิ่ง → กระตุ้น Testosterone & GH และคาร์ดิโอแบบ HIIT → กระตุ้น Adrenaline, เพิ่มการเผาผลาญ
สมัครเทรนออนไลน์👇🏻
line: @bodyproject (มี@)
...
อย่าลืมมีความสุข และสนุกไปกับมันนะคะหวังว่าคลิปนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ นะคะ💕 ...