Category: Home Blog
ความแตกต่างระหว่างเวทเทรนนิ่ง VS ไม่เวทเทรนนิ่ง
ข่าวร้ายสำหรับคนที่ไม่ได้เวทเทรนนิ่งก็คือยิ่งอายุที่มากขึ้น คุณก็ยิ่งสูญเสียกล้ามเนื้อรวดเร็วมากขึ้น ระบบเผาผลาญต่ำลง คุณจะอ้วนง่ายขึ้น ซึ่งการเวทเทรนนิ่งคือ การบริหารกล้ามเนื้อ แต่ถ้าไม่เวทเทรนนิ่งเลย กล้ามเนื้อจะลีบเล็กลง ทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง สรุปคือ ถ้าไม่เวทเทรนนิ่งสุขภาพของคุณอ่อนแอลงเรื่อยๆ และนี่คือเหตุผลที่ทำไมคุณต้องเวทเทรนนิ่ง แม้บางคนจะไม่อยากมีกล้ามก็เพราะ
– รูปร่างดี หุ่นเฟิร์มกระชับ : การยกเวทจะทำให้หนุ่มๆ สาวๆ หุ่นเฟิร์ม กล้ามเนื้อกระชับ มีสัดส่วนชัดเจน รูปร่างสวยงาม
– เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เผาผลาญได้มากขึ้น : กล้ามเนื้อก็คือเตาเผาในร่างกายค่ะ ยิ่งคุณมีมวลกล้ามเนื้อมากจะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญให้สูงขึ้น แม้ขณะอยู่เฉยๆ ความได้เปรียบของคนที่ยกเวทก็คือจะไม่อ้วนง่ายเหมือนคนที่ทำคาร์ดิโออย่างเดียวค่ะ
– ลดไขมันสะสมในร่างกาย : อย่างข้อ 2 คือเมื่อกล้ามเนื้อเพิ่ม การเผาผลาญเพิ่มจะสามารถช่วยลด %bodyfat ลงได้ ซึ่งการที่ลดไขมันสะสมในร่างกายก็ส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายๆ ด้านด้วยค่ะ
– กระดูก และข้อต่อแข็งแรง : ยังคงมีความเชื่อที่ว่ายกเวทแล้วเป็นอันตรายต่อกระดูก และข้อต่อ แต่ในความเป็นจริงการเวทที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ดีกว่าการคาร์ดิโออย่างเดียวค่ะ
– กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันการบาดเจ็บ : ประโยชน์ตรงๆ ของการเวทเลยก็คือการบริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรง การเวทให้กล้ามเนื้อแข็งแรงช่วยลดการบาดเจ็บต่างๆ เช่น ปวดหลังล่าง ปวดคอบ่าไหล่ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นหรือออกกำลังกายท่าต่างๆ เล่นกีฬาต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
– บุคลิกภาพดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจ : การยกเวทจะช่วยกระตุ้นสาร Endorphins ซึ่งจะทำให้รู้สึกดีขึ้น หนึ่งในอาการของโรคซึมเศร้าที่อาจพบได้นั่นก็คือการขาดความมั่นใจในตัวเอง โดยอาจมาจากรูปร่างที่ไม่กระชับ ไม่มั่นใจในรูปร่าง ซึ่งมีงานวิจัยที่บอกว่าการยกเวทสามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้ แถมยังเสริมสร้างความมั่นใจอีกด้วย เพราะเมื่อคุณมีรูปร่าง และบุคลิกภาพที่ดีขึ้นจะทำให้เกิดความมั่นใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ
การเวทเทรนนิ่งมีประโยชน์มากมาย มันไม่ใช่การออกกำลังกายแค่รูปร่างหรือแค่คนอยากมีกล้ามเท่านั้น เวทเทรนนิ่งคือการออกกำลังกายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน สามารถเวทได้ทุกเพศ และทุกวัย
กินเส้นให้ผอม
มาแชร์แคลอรี่เส้นๆ สำหรับสายคนชอบกินเส้นค่ะ
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย
เมนูข้าวเหนียวมะม่วง
หวานทั้งข้าวเหนียวมูน และมะม่วงสุกแบบนี้ กินมากไปก็ไม่ดี น้ำหนักจะขึ้นเอาง่ายๆ โรคอ้วน โรคเบาหวานจะตามมาโดยไม่รู้ตัว สำหรับใครที่ชอบกินข้าวเหนียวมะม่วงมากๆ ต้องระวังอย่ากินข้าวเหนียวกระทิมากเกินไปด้วยความเป็นห่วงนะคะ
การปรุงอาหารเปลี่ยนน้ำหนักอาหารอย่างไร
หลายคนคำนวณสารอาหาร ชั่งตวงอาหารต้องเช็คดีๆ ว่าชั่งจากปริมาณสุกหรือดิบ เพื่อที่สารอาหารที่คุณต้องการในแต่ละวันจะได้เป็นไปตามแผนค่ะ
‘น้ำ’ สำคัญกับชีวิตเราแค่ไหนและทำไมเราต้องดื่มน้ำ
นอกจากอากาศ และอาหารหลัก 5 หมู่แล้ว “น้ำ” ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตรองลงมาที่ร่างกายจะขาดไม่ได้ เพราะว่าน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกายถึง 70% มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายสัปดาห์หากขาดอาหาร แต่จะอยู่ได้เพียงไม่กี่วันหากขาดน้ำ ซึ่งการดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 8 แก้วต่อวันก็ถือว่าดีต่อสุขภาพ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการสร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย ขับของเสีย ช่วยลดอุณภูมิ และการไหลเวียนโลหิต
นี่เป็นเพียงบางส่วนของประโยชน์ที่ได้จากการดื่มน้ำเท่านั้น ในเมื่อทราบกันอย่างนี้แล้ว คนที่อยากจะเริ่มดูแลสุขภาพให้ดีทั้งร่างกาย จิตใจ และผิวพรรณ การดื่มน้ำถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทั้งง่าย สะดวก ราคาไม่แพง เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว แค่นี้ก็ถือเป็นการบำรุงร่างกาย และดูแลสุขภาพไปในตัวค่ะ
อาหารที่ควรเลี่ยง ถ้าอยากมีกล้ามท้อง
หนึ่งในความฝันของสาวๆ ที่รักในการมีหุ่นสวยสุขภาพดีก็คือ การมีหน้าท้องที่แบนราบนั่นเอง วันนี้ Body Project มาแชร์วิธีลดหน้าท้องให้ได้ผลจริงด้วยการงดทานอาหารทั้ง 6 ชนิดมาให้สาวๆ ได้ลองปฏิบัติตามจะมีอาหารชนิดใดบ้างที่ควรงดทานเพื่อให้ได้มาซึ่งหน้าท้องที่แบนราบ ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย
1. อาหารฟาสฟู้ด
แน่นอนว่าอาหารฟาสฟู้ดคือ อาหารที่ช่วยให้สาวๆ ประหยัดเวลา และสามารถทานได้ง่ายในช่วงเวลาเร่งรีบ แต่อย่าลืมว่าอาหารชนิดนี้เต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัว และยังมีปริมาณของเกลือสูงอีกด้วย ในขณะที่คุณค่าทางสารอาหารต่ำจนน่าตกใจ ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุหรือใยอาหารก็ตาม จากการอ้างอิงของ Harvard T.H. Chan School of Public Health ได้บอกว่า ยิ่งกินอาหารฟาสฟู้ดมากเท่าไร ยิ่งทำให้น้ำหนักภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แถมยังทำให้ปริมาณไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ที่อยู่รอบเอวสูงตามไปด้วย ดังนั้นหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ได้ ก็ควรจำกัดปริมาณหรือจำนวนการทานให้เหมาะสมจะดีที่สุด
2. อาหารเฮลตี้(ไม่จริง)
เช่น กราโนล่า โยเกิร์ต นมไขมัน 0% ผลไม้แห้ง ผลไม้สด ข้าวโอ๊ต ซีเรียล ขนมปังโฮลวีต อาหารพวกนี้ดูเหมือนกินแล้วจะไม่อ้วน แต่ในความเป็นจริง อาหารพวกนี้ให้พลังงานเยอะ แถมมีส่วนประกอบของน้ำตาล คาร์บ และไขมัน ถ้าคุณกินทุกวัน ในปริมาณมีเยอะก็ทำให้มีไขมันรอบเอวได้ค่ะ
3. น้ำอัดลม
น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน น้ำผลไม้กระป๋องหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ก็ตาม ล้วนเป็นเครื่องดื่มที่มาพร้อมกับแคลอรี่ ซึ่งจากงานวิจัยที่ได้มีการตีพิมพ์ลงใน The American Journal of Clinical Nutrition ในปี 2014 ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ค้นพบว่า การดื่มน้ำอัดลมมีแนวโน้มที่ไขมันรอบเอวจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำให้หันมาดื่มน้ำเปล่าจะช่วยลดหน้าท้อง และเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี
4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดเป็นเครื่องดื่มที่มีผลต่อไขมันหน้าท้องโดยตรง เนื่องจากในเครื่องดื่มชนิดนี้จะมีการเติมแคลอรี่ในรูปของรสชาติต่างๆ ที่มีส่วนต่อการเพิ่มไขมันรอบเอวมากขึ้นกว่าเดิม หากไม่สามารถงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ควรจำกัดการดื่มให้เพียงพอ เพื่อให้การลดหน้าท้องได้ผลตามที่วางไว้
5. เบเกอรี่
ขนมจำพวกพาย โดนัท เบเกอรี่ต่างๆ เป็นอาหารโปรดของใครหลายคนอีกเช่นกัน แต่แม้ว่าคุณจะชอบกินมันกันมากแค่ไหน ก็ให้รู้ไว้เถอะว่าอาหารที่เต็มไปด้วยแป้ง และน้ำตาลพวกนี้เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่จะทำให้อ้วน เนื่องจากการที่ได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินความจำเป็น ร่างกายจึงต้องเปลี่ยนให้เป็นไขมันสะสม จนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
6. อาหารทอดๆ มันๆ
ของทอดมีแคลอรี่สูง อาหารที่ผ่านกระบวนการทอดส่วนใหญ่จะมีแคลอรี่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับอาหารที่ผ่านการปรุงด้วยกรรมวิธีอื่นๆ เนื่องจากการทอดอาหารในน้ำมันจะทำให้อาหารสูญเสียน้ำ และดูดซับไขมันเข้าไปแทน รวมทั้งวัตถุดิบที่จะนำไปทอดมักถูกชุบด้วยแป้งทอดกรอบก่อน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ของทอดมีแคลอรี่สูง บนอกจากนี้การรับประทานของทอดอาจทำให้เกิดภาวะอ้วนได้ง่าย โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่า ไขมันทรานส์ในอาหารทอดอาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร และการสะสมไขมัน ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
การลดหน้าท้องให้ได้ผลจริงซึ่งจำเป็นที่จะต้องงดหรือหลีกเลี่ยงการทานอาหารชนิดต่างๆ นั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการงดอาหาร หรือเครื่องดื่มประเภทที่ไม่ได้ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายมากมายนัก รู้แบบนี้แล้วต้องระวังกันมากขึ้นนะคะสาวๆ