Body Project Official

ติดต่อสอบถาม 0842622362 | ไลน์ @BODYPROJECT

ติดต่อสอบถาม

ประโยชน์ของการเวทเทรนนิ่ง

การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง สามารถทำให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น และมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก รวมถึงช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงคือ การออกกำลังกายแบบ Weight Training หรือ Strength Training

เวทเทรนนิ่งคืออะไร?
เวทเทรนนิ่ง คือ การออกกำลังกายที่ใช้แรงต้านกับน้ำหนัก ซึ่งจะสร้างความตึงเครียดให้กล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นในภายหลัง คล้ายกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่จะทำให้หัวใจแข็งแรง เวทเทรนนิ่งสามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องออกกำลังกาย บาร์เบลหรือดัมเบล ซึ่งประโยชน์ของเวทเทรนนิ่งอย่างที่เพื่อนๆ ทราบกันดี คือ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญ ช่วยลดไขมันได้ดี และป้องกันการบาดเจ็บต่างๆ แต่เวทเทรนนิ่งมีประโยชน์มากมายที่เพื่อนๆ อาจจะยังไม่รู้ มีดังนี้

1. มีส่วนช่วยในการนอนหลับ
ถ้าคุณมีปัญหาการนอนหลับ ให้ลองเวทเทรนนิ่งเป็นประจำดูค่ะ ผลการวิจัยพบว่าเป็นการรักษาโรคนอนไม่หลับที่มีประสิทธิภาพ

2. ช่วยให้จิตใจแจ่มใส มีสมาธิ
การขยับร่างกายอาจช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น เนื่องจากมีงานวิจัยที่ศึกษาในผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า การเวทเทรนนิ่ง 45-60 นาที/วัน อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณ ให้อารมณ์ดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น

3. บริหารสมองให้ทำงานได้ดี
มีการวิจัยออกมาว่าคนที่เล่นเวทอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง White Matter Lesion ส่วนของสมองที่เกี่ยวกับระบบความจำมีการเจริญเติบโตที่เร็ว และมากกว่าคนที่ไม่เล่นเวท การเล่นเวทยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

4. เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
การเวทเทรนนิ่งนอกจากช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ และข้อต่อด้วย และช่วยในการทรงตัว ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้ดีมากยิ่งขึ้น

น้ำหนักไม่ลด ไขมันนิ่ง

ทุกครั้งที่คุณเกิดคำถามว่าทำไมน้ำหนักไม่ลดหรือไขมันไม่ลด ให้คุณเช็คสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้างค่ะ

ผอมแต่มีพุงแก้ยังไง

คนผอมลงพุงจะมีพฤติกรรมการกินคือ ชอบกินอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ขยับร่างกายน้อย ไม่ออกกำลังกาย เป็นคนที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย แต่ไขมันในร่างกายสูง ซึ่งพยายามจะลดพุง แต่ลดผิดวิธีคือ อดอาหาร และคาร์ดิโอหักโหมเกินไป สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง พุงยิ่งลดยากขึ้น!

วิธีแก้หุ่นผอมลงพุงคือ หันมาออกกำลังกายรูปแบบเวทเทรนนิ่ง ใส่ใจกับโปรแกรมออกกำลังกายที่แน่นอน ฟอร์ม ท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพราะจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้น เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันทรานส์สูง เน้นอาหารที่มีโปรตีนเป็นหลัก เพื่อช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ และป้องกันกล้ามเนื้อสูญเสีย สุดท้ายควรคาร์ดิโอควบคู่ แต่ไม่ใช่ทำมากจนเกินไป การคาร์ดิโอทำเพื่อควบคุมแคลอรี่แต่ละวันให้อยู่ในช่วง Deficit ก็เพียงพอ การคาร์ดิโอมากเกินไปมีแต่โทษที่จะตามมา ทำให้คุณวนลูปเดิมกลับไปอยู่ในสภาวะ Skinny Fat ค่ะ

การลดไขมันต้องใช้ระยะเวลา ต้องอาศัยวินัย และความอดทนสูง เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ และทำจนเห็นผลลัพธ์นะคะ

โภชนาการของไก่

“เนื้อไก่” ส่วนไหน ให้พลังงานเท่าไร? เนื้อไก่แต่ละส่วนให้พลังงานกับร่างกายไม่เท่ากัน หากใครกำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ เนื้อไก่ถือเป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ แต่ต้องเลือกส่วนที่กินให้ถูกด้วยค่ะ

แนะนำวิธีปรุงไก่ให้ได้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ
– เลือกเนื้อไก่ที่สด สะอาด ปลอดภัย และใหม่ ไม่เก่าเก็บนานเกินไป
– เลือกส่วนที่ไขมันน้อยอย่าง อกไก่ และอย่าลืมลอกหนังออกนะคะ
– ปรุงด้วยวิธีต้ม นึ่งหรือย่างให้สุก
หากอกไก่ปรุงสุกแล้วแข็ง สามารถลองหมักด้วยนมหรือใช้วิธีการปรุงแบบซูวี (ทำให้สุกช้าๆ ด้วยอุณหภูมิต่ำ)
– กินเนื้อไก่ร่วมกับผักในมื้ออาหารเดียวกัน เพื่อให้ได้คุณค่าทางสารอาหารครบถ้วนค่ะ

ภาวะขาดน้ำ

ภาวะขาดน้ำ
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) คือ ภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับ ทำให้กระหายน้ำ และปัสสาวะมีสีเข้ม มักมีสาเหตุมาจากการอาเจียน ท้องเสีย การออกกำลังกายหรือการใช้ยาบางชนิด สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่มักเกิดขึ้นได้มากกับทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ หากร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไปจะทำให้เซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

อาการของภาวะขาดน้ำ
กระหายน้ำเป็นสัญญาณหรืออาการแรกๆ ที่ร่างกายแสดงออก เพื่อพยายามเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกาย ทารก และเด็กเล็ก เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำได้มากที่สุด เนื่องจากไม่สามารถบอกได้ว่าหิวน้ำเมื่อไหร่ อาจพบอาการปาก และลิ้นแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตา ผ้าอ้อมเปียกปัสสาวะน้อยลง ปัสสาวะมีสีเข้ม ตาโหล แก้มตอบ กระหม่อมบุ๋ม ง่วงซึม หงุดหงิดง่าย หายใจเร็ว มือ และเท้าเย็น เป็นต้น

ผู้ใหญ่จะมีอาการที่แตกต่างกันออกไปตามระดับความรุนแรงของภาวะขาดน้ำ และพบอาการอื่นๆ ได้ ดังต่อไปนี้
อาการที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง เช่น
– ผิวแห้ง ตาแห้ง ปากแห้ง
– คิดฟุ้งซ่าน
– ง่วงซึม อ่อนเพลีย
– มึนหัว วิงเวียน ปวดศีรษะ
– มีกลิ่นปาก
– ท้องผูก

สาเหตุของภาวะขาดน้ำ
บางครั้งผู้ป่วยอาจเกิดภาวะขาดน้ำได้จากสาเหตุเพียงเล็กน้อย เช่น ดื่มน้ำน้อยเกินไป ที่อาจเป็นผลมาจากความเจ็บป่วยหรือยุ่งจากการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น การทำงานหรือการเล่นกีฬา รวมถึงสามารถเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้

– ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป ในผู้ป่วยที่มีอาการอาเจียน ท้องเสีย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และแร่ธาตุเป็นจำนวนมาก รวมถึงการสูญเสียน้ำผ่านทางบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น แผลไฟไหม้ แผลในปาก แผลติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอย่างรุนแรง เป็นต้น
– ปัสสาวะมากผิดปกติ ในผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะ ยาความดันโลหิตหรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
เหงื่อออกมากผิดปกติ จากการออกกำลังกายเป็นเวลานาน ผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีอากาศร้อนชื้นหรือในผู้ที่มีไข้สูง
ดื่มน้ำน้อยเกินไป โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการโคม่า ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงผู้ที่มีอาการป่วย เป็นหวัดหรือเจ็บคอ ทำให้รู้สึกเบื่ออาหาร และดื่มน้ำน้อยลง

การป้องกันภาวะขาดน้ำ
การป้องกันสามารถทำได้โดยดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วย เช่น อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ หลอดลมอักเสบ การติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น รวมถึงผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ผู้ที่อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนชื้น อากาศหนาวเย็นหรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่สูง และสามารถปฏิบัติได้ตามแนวทางดังต่อไปนี้

– ดื่มน้ำมากๆ ทั้งก่อน และหลังหรือในช่วงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย โดยดื่มบ่อยๆ ทุก 15-20 นาทีหรือดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ หากมีการออกกำลังกายต่อเนื่องนานกว่า 1 ชั่วโมง ควรหยุดพักจากการออกกำลังกาย หากพบว่ามีอาการวิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกเหนื่อยมาก และเลือกใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับการทำกิจกรรม เช่น เสื้อผ้าสีอ่อน เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เป็นต้น
ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว โดยเฉพาะในวันที่มีการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ อาหารทะเล พืชตระกูลถั่ว นมไขมันต่ำ เป็นต้น
– หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเบียร์ และไวน์มากเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำ

การรักษาภาวะขาดน้ำ
การรักษาสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มหรือชดเชยปริมาณของเหลวในร่างกาย โดยการดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือแร่หรือดื่มควบคู่กับน้ำเปล่า แพทย์อาจให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำจากอาการอาเจียน และท้องเสียที่ไม่สามารถดื่มน้ำผสมเกลือแร่ได้ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม น้ำหวานหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง

ผลลัพธ์ของการออกกำลังกาย

คุณต้องเข้าใจความจริงของผลลัพธ์ของการออกกำลังกายว่าต้องใช้เวลา บางคนออกกำลังกายเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็ตั้งคำถามว่าทำไมหุ่นไม่เปลี่ยนหรือ 1 เดือน หุ่นเปลี่ยนน้อยมาก การจะมีหุ่นที่ดีคุณต้องทำเป็นไลฟ์สไตล์ ออกกำลังกาย และดูแลเรื่องอาหารในทุกๆ วัน ทำอย่างสม่ำเสมอ

ความต่อเนื่องเป็นหัวใจสำคัญมากๆ ต่อให้คุณมีความรู้ แต่ถ้าคุณไม่มีวินัย ความรู้ที่มีก็จะเป็นพิษ เพราะรู้แต่ไม่ทำ แต่ถ้าคุณมีวินัยแค่บางวัน แต่คุณทำไม่ต่อเนื่อง ไม่มีความสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ก็ไม่เกิด ซึ่งหลายคนพลาดกันเยอะมากจริงๆ เพราะฉะนั้นความต่อเนื่องจะเป็นตัวชี้วัดผลลัพธ์ว่าหุ่นจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยน

หลายคนชอบตั้งคำถามว่าอยากได้หุ่นแบบนี้ใช้เวลาออกกำลังกายกี่ปี? ถ้าคุณตั้งคำถามเรื่องเวลา คุณจะรู้สึกว่าต้องใช้เวลาก็เลยหันไปพึ่งทางลัดต่างๆ ต่อให้คุณพึ่งวิธีลัดสุดท้ายมันจะไม่ยั่งยืน เพราะ Mindset ไม่ได้ถูกพัฒนาไปพร้อมกับหุ่น คุณไม่ได้สร้างนิสัย และไลฟ์สไตล์ของการมีหุ่นที่ดีตั้งแต่แรก เลยทำให้คุณรักษาหุ่นไว้ได้ไม่นาน

เปลี่ยนคำถามใหม่เป็นการจะได้หุ่นแบบนี้ต้องทำยังไง? แล้วคุณจะเห็นกระบวนการ และโฟกัสที่วิธีการมากกว่าผลลัพธ์ค่ะ จะทำให้คุณออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากหุ่นเห็นการเปลี่ยนแปลงก็เป็นการสร้างนิสัยใหม่ และกลายเป็นไลฟ์สไตล์ของเราด้วยค่ะ

อาหารของคนออกกำลังกาย

ปัจจุบันคุณจะเห็นได้ว่า อาหาร เครื่องดื่ม ขนม และของว่างต่างๆ มีการพัฒนาไปค่อนข้างมาก ประกอบกับการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อน ทำให้พฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก ที่น่าเป็นห่วงคือ แนวโน้มการกินอาหารจะไปทาง “เกินความต้องการของร่างกาย” ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดภาวะน้ำหนักเกิน และอ้วน

คนส่วนใหญ่พอพูดถึงอาหารของคนออกกำลังกายก็จะนึกถึงอาหารคลีนจืดๆ ที่รสชาติไม่อร่อย ซึ่งในความเป็นจริงอาหารพวกนี้ก็คืออาหารของคนสมัยก่อนนั่นเอง ซึ่งคนสมัยโบราณกินอาหารกันแบบง่ายๆ อาหารจากแหล่งธรรมชาติที่ยังไม่ผ่านการปรุงแต่ง เนื้อไม่ติดมัน ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ ผัก และผลไม้ ไม่กินอาหารที่แป้ง มีน้ำตาล และถั่วประเภทฝัก

การที่คุณจะดูแลหุ่นให้ดี ดูแลสุขภาพให้ดี ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เพียงแค่คุณปรับพฤติกรรมการกินแบบคนสมัยโบราณก็คือ การกินอาหารที่มีคุณภาพ ไม่ใช่อาหารที่ผ่านการปรุงแต่งหรืออาหารที่ผ่านการขัด หรือฟอกสี และไม่กินอาหารสำเร็จรูป

แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน กินอาหารให้ถูกสุขลักษณะมากขึ้น และการออกกำลังกายให้มากขึ้น ปรับให้อาหารคลีนให้มากที่สุดที่คุณจะทำได้ จากที่เคยสั่งข้าวผัดไส้กรอก ก็เปลี่ยนเป็นข้าวผัดไก่ เริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนค่ะ Body Project การันตีว่าสุดท้ายแล้วคุณจะรู้สึกเหมือนตัวเองในร่างใหม่ ระบบย่อยอาหารจะกลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง คุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ง่วงระหว่างวัน สมองแจ่มใสขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

6 วิธีเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย ‘เทสโทสเตอโรน’ อย่างเป็นธรรมชาติ

นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

1. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

การนอนหลับที่เพียงพอมีบทบาท และความสำคัญต่อสุขภาพของคนเรา เช่นเดียวกับการกินอาหาร และการออกกำลังกาย นอกจากมีความสำคัญกับสุขภาพแล้วยังมีผลกระทบหลักต่อระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนอีกด้วย ชั่วโมงของการนอนหลับที่เหมาะสมอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ทางการแพทย์แนะนำให้พักผ่อนในแต่ละวันให้ได้ 6-8 ชั่วโมง ถึงจะเรียกว่าเป็นการพักผ่อนอย่างเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ และส่งผลดีต่อฮอร์โมนเพศชาย มีงานศึกษาชิ้นหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกาพบว่าการนอนหลับเพียง 5 ชั่วโมงต่อคืนบ่อยครั้ง มีความสัมพันธ์กับการลดระดับฮอร์โมนเพศชายถึง 15% และในทางกลับกันการนอนหลับ 7-10 ชั่วโมงต่อคืนเป็นประจำจะช่วยให้ฮอร์โมนเพศชาย Testosterone เพิ่มกลับมาในเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากัน

เลิกสูบบุหรี่และลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์

2. เลิกสูบบุหรี่และลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ มักจะเป็นส่วนหนึ่งของผู้ชายไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สองพฤติกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อ ปอด หัวใจ หลอดเลือด และอวัยวะภายในที่สำคัญของร่างกายเท่านั้น การลดต่ำลงอย่างน่าตกใจของฮอร์โมนเพศในผู้ชายก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการลด ละ เลิก พฤติกรรมทำลายสุขภาพนี้ มีส่วนช่วยอย่างยิ่งที่ทำให้ฮอร์โมนเพศกลับคืนมาเป็นปกติ และยังช่วยชะลอการลดลงอย่างผิดปกติได้ด้วย ‘นิโคติน’ ในบุหรี่คือ สารพิษร้ายแรงที่มีผลต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ลดลง และยังไปทำให้เกิดการรวมตัวของกรดไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดเล็กๆ ที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศเสียไป ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวน้อยลงหรือไม่แข็งตัว นอกจากนี้สารพิษในบุหรี่อีกหลายชนิดยังส่งผลต่อความแข็งแรง และจำนวนของอสุจิที่ลดลงด้วย การดื่มแอลกอฮอล์ก็เช่นเดียวกัน หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปจะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศที่ร่างกายจะผลิตได้น้อยลง ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จำนวนอสุจิลดลง และไม่แข็งแรง รวมถึงเส้นผมหลุดร่วงได้อีกด้วยค่ะ

หลีกเลี่ยงแหล่งน้ำตาลภายนอก

3. หลีกเลี่ยงแหล่งน้ำตาลภายนอก

ซึ่งรวมถึงน้ำตาลที่ถูกเพิ่มในอาหารแปรรูป (เช่น น้ำตาลข้าวโพดที่เต็มไปด้วยน้ำตาลฟรุกโตสสูง) และสารเร่งความหวานสังเคราะห์ หากคุณต้องการ “ความหวาน” ให้ลองใช้หญ้าหวาน (Stevia) เป็นสมุนไพร ที่สามารถให้ความหวานได้มากกว่าน้ำตาลถึง 60 เท่า

ออกกำลังกายด้วยวิธี Weight Training

4. ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง

การออกกำลังกายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งในการเพิ่มฮอร์โมนเพศในผู้ชาย มีการศึกษาในต่างประเทศพบว่าผู้ชายในวัยปกติที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ส่วนในผู้ชายที่สูงอายุ การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชาย และความฟิตของร่างกายได้

นอกจากนี้มีงานวิจัยในผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินเป็นโรคอ้วน (ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่มาจากระดับฮอร์โมนที่ลดลง) ชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอให้ประโยชน์ได้มากกว่าอาหารลดน้ำหนัก ส่วนวิธีการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับการเพิ่มฮอร์โมนเพศก็คือ การฝึกด้วยแรงต้าน เช่น การยกน้ำหนัก (Weight Training)

เพิ่มไขมันดี

5. เพิ่มไขมันดี

ไขมันโอเมก้า-3 เป็นไขมันดี พบได้ในอาหารหลากหลายชนิด เช่น ไข่ สาหร่าย ปลา และหอยแมลงภู่ รวมไปถึงพืชน้ำมันบางชนิด เช่น เมล็ดแฟลกซ์ ปอ และน้ำมันผลวอลนัท ไขมันดีจะช่วยสร้างให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้นค่ะ

การลดความเครียด

6. การลดความเครียด

ในต่างประเทศมีการวิจัยถึงอันตรายของความเครียดที่สัมพันธ์กับการลดลงของฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าเมื่อเกิดอาการเครียดระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนเครียดจะสูงขึ้น และเมื่อการเพิ่มขึ้นของคอร์ติซอลที่มากผิดปกติจะไปลดฮอร์โมนเพศชายให้ต่ำลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นเป็นสองเท่า อีกทั้งฮอร์โมนเครียด ยังมีผลต่อจิตใจ และแสดงอาการไปถึงสมรรถภาพทางเพศ และความต้องการในเรื่องเพศที่ลดลง ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี และระดับฮอร์โมนเพศชายที่เหมาะสมควรต้องพยายามหลีกเลี่ยงความเครียดซ้ำๆ เมื่อคุณไม่เครียด ฮอร์โมนเพศชายก็จะไม่ถูกกระตุ้นให้ลดต่ำลง ซึ่งถือเป็นการชะลอปัญหา และยืดฮอร์โมนเพศชายให้สมดุลยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ